ยังมีอักหลายข้อผิดพลาดที่คุณอาจไม่รู้ และยีงไม่ได้อ่านจากบทความนี้จนครบ ไปดูข้อปิดพลาดที่คุณอาจคาดไม่ถึงในข้อต่อไปกันเลยดีกว่าค่ะ

4. FOMO ( fear of missing out )
มันคือการกลัวพลาด สังเกตไหมว่าทำไมเราชอบใช้มือถิอ เพราะกลัวพลาดการสื่อสาร ทำไมเราชอบเช็ต เฟสบุ๊ก ไอจี บ่อยๆ เพราะเราอยากจะรู้ว่าที่เราโพสต์ไปมีคนมากด ไลค์ คอมเม้นต์ แชร์ หรือเปล่า นื่ออาการกลัวพลาดอย่างหนึ่ง ต้องบอกว่าเราทุกคนมีความกลัวพลาดไม่มากก็น้อย เมีความกลัวไปทุกๆเรื่อง กลัวตามข่าวไม่ทัน กลัวเรียนไม่ทัน และกลัวลงทุนไม่ทัน
เช่นเมื่อคนเริ่มพูดถึงหุ้นตัวนี้ หรือเหรียญตัวนี้เยอะ ราคาก็ขึ้นไปเรื่อยๆ คุณจะคิดแลเวว่า เดี๋ยวตกรถ เดี้ยวกลัวพลาด ต้องรีบซื้อก่อนตอนี้ ก่อนราคาจะสูงไปกว่านี้ ทุกคนก็เริ่มซื้อ เห็นอีกซื้ออีก ราคามันก็เลยสูงไปเรื่อยๆจนสุด แล้วมันก็ร่วงลงมาก้มี หรือมีคนไปต่อก็มี ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างนี้เสมอไป แต่บางครั้งคุณได้ซื้อตอนที่ราคมันแพงไปแล้ว ซึ่งก็อยากจะฝากให้นักลงทุนระวัง ที่จะมีอาการ FOMO ขั้นมาได้บ่อยๆ

5.ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน
หลายคนลงทุนไปโดยไม่รู้ว่าปลายทางไปไหน ซึ่งมันแปลกมาก กิจกรรมอื่นเราจะเลือกปลายทางเช่นไปเที่ยวหัวหินนะ เราจะไปเที่ยวเขาใหญ่นะ รู้ก่อนส่าจะไปไหน ไปกี่วัน แต่กลับกัน พอเป็นเรื่องการลงทุน กลับไม่มีปลายทางก่อน มันต้องมีปลายทางก่อนเช่น
จะ เกษียณด้วยวยเงินเท่าไหร่ สมมุติคุณคิดแล้วว่าจะเกษีณด้วยเงิน 20 ล้าน ทีนี้คุณก็ค่อยย้อนกลับมาคิดว่า คุณต้องลงทุนด้วยทรัพย์สินอะไร และผลตอบแทนเท่าไหร่ เมื่อคุณรู้ปลายทาง คุณจะสามารถเลือกได้ว่า คุณจะลงทุนในทรัพย์สินอะไร เสี่ยงมาก เสี่ยง้อย และจะกระจายเงินอย่างไร?

6.พยายามจับจังหวะตลาด
นักลงทุนไม่ใช่แค่มือใหม่ มือเก่าก็พยายามจะเป็น คือชอบคิดว่าตัวเองจะล่วงรู้ได้ว่า ราคามันจะต่ำสุดอยู่ที่ไหน สูงสุดอยู่ที่ไหน จริงๆแล้วมันบอกไม่ได้ขนาดนั้น แต่ถ้าพูดถึง 10 ปี 20 ปีข้างหน้ายังพอจะรู้ได้ นักลงทุนหลายคนพยายามการหาจังหวะลงทุน มันก็เลยเกิด “ค่าเสียโอกาส”ดังนั้นดีที่สุด นักลงทุนต้อง DCA ( dollar Cost Averaging ) คือการทยอย ซื้อ แต่ถ้าในบางจังหวะที่ราคามันตกเป็นพิเศษ อาจจะจ่ายเงินซื้อเพิ่มก็ยังทำได้
ติดตาม ข้อผิดพลาดในการลงทุน ในตอนต่อไปนะคะ คุณจะไกชด้ไม่พลาดโดยที่ไม่รู้ตัวอีก
#นักลงทุน #ลงทุน #การลงทุน