คุณจะเลือกทำธุรกิจยังไง ให้คุณไปได้รอดในตลาดที่มีความแข่งขันสูง หลายๆคนเลือกจะทำธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง แล้วสุดท้ายไปไม่รอด

ในบทความนี้ โค้ช แบงค์ สุภกฤษ์ กุลชาติวิจิตร กูรูจากรู้รอบตอบโจทย์ธุรกิจ จะมาบอก 3 ประเภทของธุรกิจ ให้คุณได้เลือกทำ หรือเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงประเภทธุรกิจ โดยพิจารณาข้อดีข้อเสียของธุรกิจทั้ง 3 ประเภทที่โค้ช นำมาฝากเป็นแนวทาง

1.ธุรกิจประเภท ME TOO
คือธุรกิจที่เหมือนกับคนอื่น คนส่วนใหญ่ชอบเริ่มต้นธุรกิจแบบนี้คือ เห็นเค้าขายดี คุณก็เข้าไปขายด้วย เห็นเขาปลูกกล้วยขายดีก็เข้าไปปลูกด้วย แล้วก็ใช้วิธีการตัดราคา เขาขาย 100 คุณไปขาย90 เขาลงมา 90 คุณขาย 80 ข้อดีของการทำแบบนี้ใฝนเบื้องต้น
คุณสามารถขายได้เร็ว ธุรกิจแบบนี้ทำเงินได้เร็ว แต่ในระยะยาวลำบาก เพราะมันจะต่ำลงไปเรื่อยๆ ไม่มีทางโตได้เลย เจ้าใหม่องค์กรเล็กค่าใช้จ่ายน้อย สามารถใช้การลดราคาเพิ่อแย่งตลาดได้แต่ในระยะยาวคุณขยายใหญ่ลำบาก ถ้าคุณเม็ดเงินไม่หนาพอ มันคือการเฉือนเนื้อตัวเองกินไปเรื่อยๆ ธุรกิจแบบนี้ เริ่มต้นง่าย เงินเร็วแต่ไม่ยาว
2ธุรกิจประเภท ME BETTER
คือดีกว่าคนอื่น หลายคนทำธุรกิจแบบแรกแล้วตั่นก็จะมาทำธุรกิจแบบที่ 2 นี้แทน เพิ่อะไรบางอย่างที่มันดีกว่าเขานิดหนึ่ง ส่งเร็วกว่าเค้าหน่อยหนึ่ง บริการดีกว่าเขานิดหนึ่ง
แต่จุด BETTER จุดนั้นมันต้องเป็นจุดที่ลูกค้าให้ความสำคัญ แต่ถ้าลูกค้าไม่เห็นว่าสำคัญก็ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าเค้าให้ความสำคัญคุณก็จะชนะคู่แข่งได้ ยกตัวอย่างเช่น คู่แข่งมีประกัน 1 ปี คุณประกัน 2 ปี แบบนี้ลูกค้าจะให้ความสำคัญ
3.ธุรกิจประเภท ME ONLY
คือมีฉันเท่านั้นที่มี ถ้าแบบนี้คุณทำธุรกิจง่าย ถ้าคุณมีสินค้าที่ตอบโจทย์ได้ในย่านนี้ ในประเทศนี้ ในสินค้าแบบนี้ ในขณะที่คนอื่นตอบโจทย์ไม่ได้ ลูกค้าจะเข้ามาหาคุณ และลูกค้าชอบสินค้าอยู่แล้ว คุณก็สามารถลงทุนทำหารตลาดได้ทันที จะเพิ่มหรือลดราคาคุณสามารถทำได้ เพราะลูกค้าติดคุณแล้ว มันทำให้คู่แข่งรายอื่นเข้ามายากยกตัวอย่างเช่น ยกตัวอย่างเช่น คนอื่นประกัน 1 ปี ME BETTER ประกัน 2 ปี แต่คของคุณประกันตลอดชีวิต อันนี้คือ คุณเป็น ONLY เพราะคุณเป็นเจ้าเดียวที่รับประกันตลอดชีวิต

ดังนั้นตอนนี้ตอบเลยว่าธุรกิจของคุณเป็นแบบไหนใน 3 อย่างนี้ แล้วลองพิจารณาสิ่งที่ได้เอามาฝากดูว่าคุณจะเปลี่ยนแปลงหรือเลือกเริ่มทำธุรกิจประเภทไหนดี
#ธุรกิจ #การลงทุน #การออมเงิน