สงครามทำพิษเศรษฐกิจ ต้องเลือกลงทุนแบบไหน ตอนที่ 2

สงครามทำพิษเศรษฐกิจ ต้องเลือกลงทุนแบบไหน ตอนที่ 2

เราได้เข้าใจพื้นฐานของผลกระทบของการเกิดสงครามรัสเซีย –ยูเครน ในบทความตอนที่ 1 แล้วว่า จะเกิดผลกระทบอะไรบ้างจากสงคราม ในบทความที่ 2 เราจึงจะมาแบ่งปันและแนะนำว่า ในช่วงที่เกิดสงครามเช่นนี้เราควรจะลงทุนอะไรได้บ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

9 สินทรัพย์ที่น่าลงทุนในช่วงสงครามที่เกิดสภาวะสินทรัพย์ผันผวน มีดังนี้

1.Safe Haven คนส่วนมากจะนึกถึงทองคำ เพราะทองคำอยู่มาหลายพันปีแล้ว แล้วมันสามารถที่จะรักษาคุณค่าได้ แม้มูลค่าจะไม่เพิ่มขึ้นหวือหวา แต่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่นเมื่อ 20 กว่าปีก่อนราคาทองคำบาทละ 6,000 บาท แต่ปัจจุบันบาทละ 30,000 บาท ซึ่งถ้าเปรียบเทียบว่าคุณเอาเงินไปฝากธนาคารเมื่อ 20 ปีก่อน 6,000 บาท ปัจจุบันคุณก็ยังมีประมาณ 6,000 หรือมูลค่าอาจน้อยลงกว่า 6,000  เพราะมันเกิดภาวะเงินเฟ้อ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมช่วงเวลาทีเกดสงคราม คนจึงมักแบ่งเงินไปลงทุนในทองคำ จึงทำให้ราคาทองสูงขึ้นเป็นพิเศษในช่วงสงคราม

2.ลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพ เพราะไม่ว่าจะเป็นช่วงทีสงครามหรือไม่มีสงครามการลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพ แข็งแกรงดีที่สุด คุณก็ต้องพิจารณาว่าสงครามที่เกิดขึ้นมีผลกับบริษัทนั้นๆไหม เช่นถ้าคุณจะถือหุ้นกับบริษัทที่บริหารพวกร้านค้าสะดวกซื้อ ก็ดูว่าสงครามที่เกิดขึ้นมันมีผลกระทบกันการซื้อของที่ร้านค้าสะดวกซื้อไหม ถ้าไม่มีคุณก็ถือหุ้นในบริษัทนั้นได้

3.DCA  คือการลงทุนที่เท่ากันในทุกเดือนในระยะเวลาที่ยาวนาน ซึ่งสามารถลงทุนได้ในกองทุนดัชนี วิธีนี้น่าจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและดีที่สุดสำหรับคนส่วนมากที่ไม่ใช่นักลงทุนมืออาชีพ ที่ต้องค่อยจับจังหวะ แต่คุณสามารถซื้อเฉลี่ยไปเรื่อยๆสงครามมีหรือไม่มีก็ซื้อตลอดในระยะยาว ซึ่งผลตอบแทนค่อนข้างใช้ได้ หน้าที่ของคุณคือมีวินัยในทุกๆเดือน เท่ากันๆ ยาวๆตลอดไป

4.จับจังหวะตลาด วิธีนี้เหมาะกับนักลงทุนมืออาชีพที่มีเวลามีความรู้ โดยซื้อของที่ดีในราคาถูก มีวิจัยว่าช่วงสงครามลงทุนตอนไหนดีที่สุด คำตอบคือ ช่วงที่”บุก” เพราะตลาดหุ้นจะแดงทั้งโลก ให้ซื้อตอนนั้นเพราะราคาหุ้นถูก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนี่ก็เป็นข้อมูลอ้างอิงจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ไม่แน่ว่าจะเป็นเช่นนี้เสมอไป ดังนั้นข้อนี้จึงเหมาะกับคนที่เป็นมืออาชีพจริงๆคือมีความพร้อมเรื่องของเวลา มีความรู้ดี

5.Defemsive Stock หรือหุ้นเชิงรับ หุ้นกลุ่มนี้ หรือบริษัทกลุ่มนี้เป็นบริษัทขนาดใหญ่ หรือค่อนขางใหญ่ ไม่เติบโตหวือหวา แต่ราคาไม่สวิงมาก มันจะไปของมันเรื่อยๆ จะเป็นบริษัทที่มีสินค้าที่คนใช้ประจำ เศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีเขาก็ต้องใช้เช่น เช่น น้ำ ไฟ อุปโภค บริโภค การลงทุนในข้อนี้จึงค่อนข้างปลอดภัย โดยเราต้องพิจารณาเพิ่มเติมด้วยว่า ชื่อเสียงบริษัทเป็นอย่างไร อยู่มายาวนานไหม? เป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจด้วย

6.การลงทุนในพันธบัตร หรือหุ้นกู้ ข้อดีคือปกป้องเงินต้น เงินต้นไม่พร่อง ไม่เหมือนหุ้นเงินต้นมีโอกาสพร่อง ซึ่งหลายคนก็สบายใจที่จะทำให้ช่วงสงคราม

7.ถือเงินสด หรือฝากเงินประจำ ซึ่งถ้าทำสม่ำเสมอยาวๆไม่แนะนำ เพราะยังไงคุณก็แพ้เงินเฟ้อ

8. Cryptocurrency เช่นลงทุนใน Bitcoin หลายๆคนเริ่มมองว่ามันเป็น Safe Haven คล้ายๆทองคำ ซึ่งมันก็มีความเหมือนกันมากคือมีจำนวนจำกัด มีการขุด สงครามราคาก็มีขึ้นลงแต่มันก็ไปของมันเรื่อยๆ อีกอันคือ Defi หลายคนเวลาเจอช่วงสงครามก็จะถือเงินสดเยอะหน่อยแต่ในโลกของ Defi เค้าไม่ถือเงินสดไปฝากธนาคาร แต่เค้าเอาเงินสดแปลงเป็น Stable coin แล้วไปกินดอกเบี้ยในโลก Defi ซึ่งจะได้ 5-20 % หลายคนสบายใจที่จะเป็นที่พักเงินชั่วคราวในช่วงสงคราม พอดีขึ้นค่อยไปถอนเงินออกมา แต่อันนี้ต้องมีความรู้ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง

9.การลงทุนแบบอื่นๆ เช่นที่ดิน หรือ อสังหาริมทรัพย์

ต้องย้ำว่าทั้ง 9 ข้อไม่มีข้อไหนดีที่สุด เพียงแต่ข้อไหนที่ตอบโจทย์คุณที่สุด วิเคราะห์และพิจารณาดูนะคะว่าแบบไหนที่ตอบโจทย์คุณก่อนตัดสินใจลงทุน

Our Partner