เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตผู้คน และการทำธุรกิจในทุกด้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งในอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ ที่ต้องการประเมินราคาความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ ซึ่งการประเมินมูลค่าความเสียหายต้องใช้ความแม่นยำและความเที่ยงตรงในการประเมินราคา
ทั้งนี้ในอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ในไทยเริ่มมีการใช้ AI มากขึ้นแล้ว โดยเริ่มจากการใช้ประเมินราคาความเสียหายจากกรจดจำรูปแบบความเสียหายจากฐานข้อมูลหลายแสน หลายล้านรายการ เพื่อใช้ประเมินชิ้นงานที่ต้องส่งซ่อมรูปแบบการซ่อม

นางนวรัตน์ วงศ์ฐิติรัตน์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ BVG ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มและเแอปพลิเคชันสำหรับธุรกิจประกันภัย เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่มธุรกิจด้านการประกันภัยรถยนต์
BVG ดำเนินธุรกิจใน 4 ส่วน คือ 1.ธุรกิจให้บริการระบบแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจากประกันภัยรถยนต์ (ระบบ EMCS) 2.ธุรกิจให้บริการระบบแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลและสินไหมทดแทน 3.ธุรกิจการให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย 4.ธุรกิจการให้บริการนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
EMCS ถือเป็นธุรกิจหลักของบริษัท และเราได้นำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ยกระดับการให้บริการลูกค้าโดยเฉพาะการตีราคาประเมินงานค่าซ่อมที่ต้องการความเที่ยงตรงในการประเมินที่ AI จะเข้ามาช่วยคำนวณราคาที่เหมาะสมได้
“เรากำลังใช้ AI เข้ามาช่วยในการเปลี่ยนอุตสาหกรรมประกันภัย โดยในส่วนแรกที่เริ่มใช้คือการนำ AI เข้าไปตรวจสอบความเสียหายในด้านพื้นผิวของตัวรถยนต์เพื่อใช้ในการประเมินราคาการซ่อม”

เข้าตลาดหุ้นเพื่อบุกต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม BVG กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ โดยจะมีการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 157,500,000 หุ้น ประกอบด้วย 1.หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 90,000,000 หุ้น 2.หุ้นสามัญเดิม ที่เสนอขายโดยบริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) จำนวนไม่เกิน 67,500,000 หุ้น 157,500,000 หุ้น
ประกอบด้วย 1.หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 90,000,000 หุ้น 2.หุ้นสามัญเดิม ที่เสนอขายโดยบริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) จำนวนไม่เกิน 67,500,000 หุ้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
วัตถุประสงค์ในการใช้เงิน จะนำเงินไปใช้ในการพัฒนาระบบ AI และระบบสารสนเทศ ขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน และใช้เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
โดยคุณนวรัตน์ การเข้าตลาดหุ้นในครั้งนี้บริษัทมองถึงการขยายตลาดไปยังต่างประเทศที่มีการเติบโตสูงทั้งในประเทศเวียดนามและกัมพูชาที่เศรษฐกิจมีการเติบโตสูง ทั้งนี้ในด้านการแข่งขันเชื่อว่าแพลตฟอร์มการของ BVG จะสู้กับต่างชาติได้ด้วยความเข้าใจในตลาดที่มากกว่า.