เทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว หลายสิ่งที่เราคุ้นเคยถูกแทนที่ด้วยสิ่งใหม่ ๆ เช่น กล้องฟิล์ม แทนที่ด้วยกล้องดิจิทัล การส่งจดหมายเปลี่ยนเป็นการส่งอีเมล ซีดีเพลงถูกแทนที่ด้วยสื่อสังคมออนไลน์อย่างยูทูป เป็นต้น นอกจากจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงในการดำเนินชีวิตแล้ว บางสายงานก็ถูก AI เข้ามาแทนที่เหมือนกัน มีการลดพนังงานลง และใช้เครื่องมือเครื่องจักรที่ทันสมัยแทนที่ เพื่อลดต้นทุนในการผลิตลง มนุษย์เราจึงต้องปรับตัวให้ได้เพราะนั่นหมายความว่าในอนาคต เอไอจะค่อย ๆ เข้ามาแทนที่อาชีพของเราอย่างไม่ทันตั้งตัว มีอาชีพไหนบ้างที่มีความเสี่ยงตกงานมาดูกัน

6 อาชีพที่อาจจะถูก “เอไอ” เข้ามาแทนที่
1. พนักงานเสนอขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ทางโทรศัพท์ มีโอกาสตกงานสูงถึง 99 เปอร์เซ็นต์ เป็นเพราะอาชีพนี้ไม่ต้องใช้ประสบการณ์ หรือทักษะทางสังคมมากนัก ทำให้เอไอ สามารถเข้ามาแทนที่ได้ง่าย คาดว่าอาชีพนี้ในปี ค.ศ. 2024 จะมีอัตราการจ้างลดลงเหลือเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ และบริษัทยักษ์ใหญ่หลาย บริษัท เริ่มหันมาใช้เอไอบ้างแล้วเพื่อลดต้นทุนการผลิตลง
2. บัญชีการเงิน มีโอกาสตกงานถึง 98 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าในปี ค.ศ. 2024 จะลดพนังงานลงอีก 8 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อใช้ในการเก็บรายรับ รายจ่าย รวมถึงการจัดทำบัญชี มานานแล้วและโปรแกรมเหล่านี้มีการพัฒนาให้สมบูรณ์มาอย่างต่อเนื่อง
3. ผู้จัดการในส่วนของค่าตอบแทนและด้านสวัสดิการของพนักงาน มีความเสี่ยงถูกแทนที่ด้วย AI ประมาณ 96 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ไว้ว่าอาชีพนี้ในปี ค.ศ. 2024 จะมีอัตราการเติบโต 7 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเอไอเหล่านั้นจะไม่เข้ามาทำหน้าที่แทนที่คนได้

4. พนักงานต้อนรับ มีโอกาสที่จะตกงาน 96 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ ระบบลงตารางนัด การจอง ที่สามารถทำแทนคนได้ โดยเฉพาะบริษัทหลายแห่งที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีพนักงานต้อนรับ แค่เพียงระบบที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าก็เพียงพอแล้ว
5. คนขับรถ และพนักงานส่งของ มีโอกาสเสี่ยงถึง 94 เปอร์เซ็นต์ที่จะตกงาน เพราะในอนาคตจะถูกแทนที่ด้วยโดรน หรือหุ่นยนต์ ซึ่งกำลังมีการพัฒนาและอาจจะใช้แทนที่คนในอนาคต คาดว่าในปี ค.ศ. 2024 จะมี เอไอแทนที่อาชีพนี้ 5 เปอร์เซนต์
6. พนักงานเก็บเงิน และพนักงานขาย มีโอกาสเสี่ยงตกงาน 92 เปอร์เซนต์ ซึ่งในอนาคตอาจจะไม่มีพนักงานขายคอยให้บริการตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ลูกค้าสามารถเลือกชมและจ่ายเงินได้ด้วยตัวเอง เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันต้องการความเป็นส่วนตัวและหาข้อมูลต่าง ๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่ก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้าต่าง ๆ

การแทนที่ด้วยหุ่นยนต์บางสายงานเกิดขึ้นแล้ว
AI สามารถวิเคราะห์การขายสินค้าทางโทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีการลาพักร้อน และนอนหลับพักผ่อน อีกทั้งยังถูกนำมาใช้ในการวางกลยุทธ์ ผ่านทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เช่น การโต้ตอบทางอีเมล และทางแชทต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเอไอจะช่วยให้การทำงานดีขึ้นแต่อาจจะเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงบางสายงานอาจต้องใช้ทักษะด้านความคิดตัดสินใจที่ระบบอัตโนมัติไม่สามารถทำได้ เราควรปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยในการทำงานให้สะดวกสบายขึ้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่า AI ได้เข้ามาตอบโจทย์ทั้ง ผู้ผลิต และผู้บริโภค ที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ระบบอัตโนมัติต่าง ๆ จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น การปรับตัวของแรงงานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องรีบพัฒนาทักษะของตัวเองให้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีโอกาสที่จะถูกเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่แต่อย่าลืมว่า คนเราก็ยังเป็นผู้ควบคุม เอไอ อยู่ดี ดังนั้นควรพัฒนาระบบความคิด ต่อยอด และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
เครดิตภาพ : campus.campus-star.com / brandinside.asia / techhub.in.th