จากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ ของโรคไวรัสติดเชื้อ โควิด-19 ส่งผลให้หลาย ๆ บริษัท รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ต้องมีนโยบาย Work from Home เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรค ซึ่งการทำงานที่บ้านอาจทำให้หลายคนรู้เบื่อ และงานที่ได้รับมอบหมายมี่ประสิทธิภาพน้อยลง ดังนั้นการทำงานอยู่ที่บ้านอย่างไรให้ได้งาน มีวิธีมาแนะนำให้ลองทำกันดู เพื่อเซฟตัวเอง และคนในครอบครัว หยุดเชื้อเพื่อชาติ

ทำงานที่บ้านอย่างไรให้ได้งาน และมีประสิทธิภาพ
กำหนดเวลาในการทำงานให้ตัวเอง การทำงานอยู่ที่บ้านแม้ว่าจะมีข้อดีอยู่มากมาย แต่บางคนอาจจเผลอทำงานเร็วกว่าปกติ หรือทำงานจนลืมเวลาพัก และอาจติดพันจนเลิกงานช้า ส่งผลให้ชีวิตการทำงานเปลี่ยนแปลงไปไม่สมดุล ดังนั้นการทำงานที่บ้านควรกำหนดเวลาและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ชีวิตการทำงานที่บ้านมีแบบแผนมากยิ่งขึ้น
ตั้งกฎเหล็กกับคนในครอบครัว หากใครที่มีสมาชิกภายในบ้านหลายคน เช่น พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ ลูกหลาน หรือแม้แต่เพื่อนสนิท ควรบอกกับทุกคนเหล่านั้นว่าเราว่างเวลาไหน อะไรทำได้ หรือทำไม่ได้ เพื่อให้เข้าใจตรงกัน และไม่ส่งผลต่องานที่กำลังทำอยู่ เนื่องจากในบางครั้งผู้อยู่ร่วมด้วยอาจจะอยากเข้ามาพูดคุย เล่นด้วย แม้แต่การทำงานบ้านเสียงดังรบกวนเวลาทำงาน อาจทำให้ประสิทธิภาพของงานลดลงไป ทางที่ดีควรแยกห้องทำงาน แล้วบอกให้ทุกคนทราบว่าห้ามรบกวนในระหว่างทำงาน หรืออาจจะกำหนดเวลาว่าเข้ามาหาได้ช่วงเวลาไหน
สร้างกิจวัตรในตอนเช้า โดยทำให้ร่างกายคุ้นชินว่ากำลังจะเริ่มทำงานแล้วเหมือนกับการทำงานอยู่ในสถานที่ทำงาน เช่น การชงกาแฟดื่ม การเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นต้น เพราะตามหลักทางจิตวิทยา บ่งบอกว่าหากใส่ชุดนอนทำงานเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำสักเท่าไหร่ เนื่องจากทำให้เรารู้สึกสบายและผ่อนคลายจนเกินไป ทางที่ดีควรใส่ชุดทำงานแบบลำลองก็ได้ เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่ากำลังทำงานอยู่ในสำนักงาน
จัดเวลาพัก Work from Home ทำให้มีอิสระจากกฎระเบียบในที่ทำงาน จนลืมพักเบรกในช่วงเวลาต่าง ๆ อย่างที่เคยปฏิบัติกันในสำนักงาน ดังนั้นควรแบ่งเวลาอย่างเหมาะสม พักผ่อนตามความเคยชินจากการทำงาน
เลือกพื้นที่ให้เหมาะสม ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำให้ทำงานในห้องที่ให้พลังงานมากที่สุด เช่น ห้องที่มีวิวสวยงาม หรือมีแสงจากธรรมชาติ มีแสงสว่างอย่างเพียงพอ ติดตั้งไฟในตำแหน่งที่เหมาะ เลี่ยงห้องที่มีแสงมาจากจุด ๆ เดียว ควรเป็นห้องที่มีแสงสว่างมาจากหลายแหล่ง ทำให้แสงกระจายตัว ลดอาการปวดตา อีกทั้งยังช่วยลดแสงสะท้อนจากคอมพิวเตอร์อีกด้วย

จัดพื้นที่ให้น่าทำงาน ควรจัดระเบียบพื้นที่ให้เรียบร้อย แต่ไม่จำเป็นต้องเป๊ะทุกอย่าง เลือกวางสิ่งของต่าง ๆ บนโต๊ะอย่างเหมาะสม แยกของที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป หรือหาอะไรที่ช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจ ก็จะทำให้โต๊ะทำงานน่านั่งขึ้น
เลี่ยงการทำงานบนเตียงนอนหรือโซฟา โดยผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายว่าเราควรแยกพื้นที่ในการทำงานกับพื้นที่พักผ่อนออกจากกัน เพื่อให้มีขอบเขตในการใช้ชีวิต และที่สำคัญต้องระวังในเรื่องของโรคต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ปวดหลัง ปวดคอ และต้องจัดการกับเอกสารและอุปกรณ์ต่าง ๆ หลังจากเลิกงานเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เวลางานปะปนกับเวลาส่วนตัวของเรา
ทำงานที่บ้าน ต้องไม่ลืมดูแลเรื่องสุขภาพ
การทำงานแบบ Work from Home อย่างมีประสิทธิภาพนั้นเราต้องดูแลรักษาสุขภาพทั้งกายและใจให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอควบคู่ไปด้วย เนื่องจากปัญหาที่พบเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ อาการออฟฟิศซินโดรม และพบมากในคนที่ทำงานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ และอยู่ในท่าเดิม ๆ นอกจากนี้พฤติกรรมในการทำงานอาจก่อให้เกิดความเครียดขึ้นได้ ส่งผลให้มีอาการปวดตามบ่า คอ ไหล่ ศีรษะ ตา ซึ่งต้องจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีความเหมาะสม หากการทำงานอยู่ที่บ้านจนร่างกายเจ็บป่วย จิตใจอ่อนแอ ก็อาจจะไม่สามารถทำงานอยู่ที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพได้

จะเห็นได้ว่าการ Work from Home นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แตกต่างกันออกไป ข้อดีอาจจะทำให้เรามีอิสระจากการทำงานมากขึ้น แต่ข้อเสียคือหากจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานต่าง ๆ ไม่มีความเหมาะสม ก็จะส่งผลให้เกิดโรคจากการทำงาน หรือแม้แต่งานที่ออกมาไม่มีประสิทธิภาพ จนก่อให้เกิดผลกระทบในแง่ลบในอนาคตการงานของเราได้
เครดิตภาพ : khaosod.co.th / sanook.com / filmeonlinehds.com