ถ้าต้องการมั่งคั่ง หรือต้องการพัฒนาตัวเองให้ก่งขึ้น ครั้งนี้ห้ามพลาดที่จะอ่านบทความบทนี้ เพราะเรามีวิธีการออมเงินอย่างมั่งคั่งด้วยทฤษฎี 6 JARS ซึ่งมันเป็นทฤษฏีของ T- HARV EKER ผู้เขียนหนังสือ ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน ซึ่งเขาเป็นชาวแคนนาดา ตอนหนุ่มๆเป็นคนขยันมาก แต่ทำอะไรก็ล้มเหลวไปหมด ทำอะไรก็เจ๊ง วันหนึ่งเขามีโอกาสได้ไปคุยกับเพื่อนของคุณพ่อซึ่งเป็นเศรษฐี เพื่อนคุณพ่อก็บอกเขาว่า เขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องความขยันแต่เขามีปัญหาเรื่องของวิธีคิดด้านการเงิน คือ T- HARV มี MAID SETของคนจนอยู่ พอเขาเปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตเขาก็เริ่มดีขึ้นจนกลายเป็นเศรษฐี และทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นผู้ที่ให้ความรู้เรื่องการเงิน และทฤษฎีทางการเงินของเค้าที่ดังมาก และคนนำไปใช้ได้ผลก็คือ ทฤษฎี 6 JARS หรือทฤษฎี 6 กระปุก ก็คือเขาแบ่งเงินออกมา 6 กระปุกด้วยกัน เช่นสมมุติว่าคุณมีรายได้ 100 บาท ต้องแบ่งเงินออกมาเป็น 6 กระปุกโดยมีรายละเอียดทั้ง 6 กระปุกดังนี้
กระปุกแรก
เป็นรายจ่ายประจำ กระปุกนี้จะแบ่งไป 55 % หรือ 55 บาทจาก 100 บาท คือ รายจ่ายที่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ กินใช้ ค่าน้ำค่าไฟ ให้คุณพ่อคุณแม่อะไรก็ตามที่เป็นเรื่องของรายจ่ายประจำ และจำเป็น จะอยู่ในกระปุกนี้ทั้งหมด
กระปุกที่ 2 คือเงินนำไปลงทุน อยู่ที่ 10 % ของรายได้
เช่นซื้อกองทุน ฝากเงิน พันธบัตรรัฐบาล หรือลงทุนในหุ้น เพื่อให้เงินทำงานให้คุณ โดยไอ้ 10 % จะไปลงทุนในอะไรก็ตามขึ้นอยู่กับความรู้ของคุณ แต่ไม่เกี่ยวกับซื้อหวย หรือ สลากกินแบ่งรัฐบาลนะ
กระปุกที่ 3 แบ่งออกมา 10 % เหมือนกัน
กระปุกนี้เพื่อการเรียนรู้และการศึกษา สำคัญมากๆ เพราะถ้าเราอยากจะไปไกลกว่านี้เราก็ต้องเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองมากกว่านี้ เรามาถึงจุดนี้ได้เพราะความรู้เดิม ถ้าอยากจะไปไกลกว่านี้ก็ต้องมีความรู้เพิ่ม และ 10 %ในกระปุกนี้เราเอาไปทำอะไรบ้าง ก็คือ การเอาไปซื้อหนังสือ การไปอบรม ไปเรียนหลักสูตรสั้นๆ โดยเฉพาะในยุคนี้ ความรู้มันตกยุคเร็วมา เรียนวันนี้ อีก 1 ปี 2 ปีใช้ไม่ได้แล้วนะ ฉะนั้นคุณต้องเรียนรู้อยู่เสมอ งบประมาณตรงนี้จึงสำคัญมากที่คุณต้องกันเอาไว้เพื่อต่อยอดความรู้ตัวเอง
กระปุกที่ 4 การออม 10 %
การอออมระยะยาว สมมุติอีก 5 ปี 10 ปี คุณจะต้องใช้เงินซื้อบ้าน ซื้อรถ เตรียมแต่งงาน หรือเรื่องการศึกษาลูก พวกนี้ถือว่าเป็นการลงทุนระยะยาว ทำไมต้องมีเงินออมก้อนนี้ก็เพราะว่า เมื่อมาถึงวันนั้นจริงๆ คุณจะต้องมีเงินก้อนใช้ได้เลย ไม่ต้องไปกู้ยืมใคร
กระปุกที่ 5 อีก 10 % คือ
การให้รางวัลตัวเอง ทำงานหนักมาก็ต้องให้รางวัลตัวเองบ้าง อาจจะไปเที่ยว ไปดูหนัง หรือซื้อของที่อยากได้ให้กับตัวเอง เหล่านี้ถือว่าเป็นการให้รางวัลตัวเองทั้งสิ้น
กระปุกที่ 6 อีก 5 % สุดท้าย คือ
ออมเพื่อการแบ่งปัน ในการช่วยเหลือสังคม ตอบแทนประเทศชาติ ในรูปแบบไหนก็ได้ที่คุณอยากช่วย และชอบที่จะช่วย เพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะให้ทุนการศึกษาเด็กยกจน ช่วยมูลนิธิช่วยหมา ช่วยแมว บางคนชอบทำบุญทางศาสนา ได้ทั้งหมด ในส่วนนี้จะช่วยเติมจิตวิญญาณ ความสุข ความภูมิใจให้กับตัวคุณเอง
สุดท้าย T- HARV ได้กล่าวเอาไว้ว่า “ ถ้าคุณทำอะไรเหมือนเดิม คุณจะได้ผลลัพธ์เดิมๆ ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ใหม่ๆ คุณต้องทำอะไรใหม่ๆ “
อย่างไรก็ตาม ทฤษฎี 6 JARS เป็นเพียงแนวทางที่ต้องทำ แต่สัดส่วนตัวเลขการแบ่งเป็น 6 กระปุก สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม แต่ก็ต้องมีให้ครบทั้ง 6 กระปุก เพื่อความปลอดภัยในการบริหารเงินออม
#ออมเงิน #ทฤษฎี 6 JARS #การออมเงิน
